ออแพร์ขอเล่า - ชีวิตในอเมริกา #2 "ถึงแล้วแคลิฟอเนียร์"

 

รูปตอนไป Hiking ที่ Los Gatos ค่ะ เป็นที่โปรดเลย


ในที่สุด ก็ถึงสักที Los Gatos, California บอกตรงๆว่า ไม่ได้รู้จักอะไรประเทศอเมริกาเลย เพิ่งจะเริ่มค้นหาข้อมูลตอนที่สนใจโครงการออแพร์แล้วจริงๆ นึกภาพไม่ออกด้วยว่าอเมริกาจะเป็นแบบไหน เริ่มใหม่ทุกๆอย่าง ปกติดูแต่หนังไทย เพลงไทย มันน่าตื่นเต้นมากเลยนะที่ได้ลองมาทำอะไรใหม่ๆ โฮสมารับตอนดึกๆ พอไปถึงบ้านเด็กๆก็นอนไปหมดแล้ว ย่องเข้าห้องแบบเงียบๆ ไปเจอเพื่อนออแพร์คนไทย ก็คุยกันนิดหน่อย แล้วก็อาบน้ำนอน 


Golden gate bridge, California

ถ้าจำไม่ผิดวันต่อมาน่าจะเป็นวันอาทิตย์ แล้วเพื่อนก็ชวนไปซานฟรานซิสโก (ซานฟรานคืออะไรยังไม่รู้อ่ะ ณ ตอนนั้น) เอ้าไปสิ ใครชวนไปไหนก็ไปหมดอ่ะ แล้วก็พาไปซื้อของที่ 99 Ranch ได้กินอาหารจีนเป็นกล่องๆ 


และตอนเย็นๆกลับมาบ้าน โฮสก็ชวนไปที่ดาวน์ทาวน์ ไปกินข้าวเย็น และเด็กๆไปเล่นน้ำพุ เด็กคนโตเดินมาหาเรา แล้วพูดว่า Can I sit on your lap? นี่ฟังไม่รู้เรื่อง โฮสทำท่าให้ดู ว่าเด็กขอนั่งตักนะ ก็เลยบอกว่า ได้สิๆๆ เด็กๆน่ารักมาก เข้ากันได้ดีตั้งแต่วันแรก พูดผิดๆถูกแต่ก็เข้าใจกันอยู่  


เราได้อยู่กับออแพร์คนเก่าเกือบ 2 อาทิตย์เห็นจะได้ ตอนแรกกังวลใจมาก ถ้าออแพร์ออกจากบ้านไปแล้วเราต้องทำคนเดียว กังวลว่าโฮสจะไม่ถูกใจ หรือเค้าจะไม่พอใจ เพราะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาพอสมควร เล่าเกี่ยวกับโฮสตอนไปเที่ยวด้วยกัน แต่ถ้าเราคุมเด็กได้ ก็จะทำงานได้แหละ ช่วง 2 อาทิตย์แรก เป็นช่วงปรับเปลี่ยน เรารู้ว่าภาษาเราไม่ดี เราเลยพยายามทำการบ้าน หลังจากเลิกงาน เรากลับมานั่งท่องศัพท์ที่จำเป็นกับเด็ก หาคำศัพท์ที่เราขาด แล้วเราต้องใช้ ศึกษาจากในการทำงานทุกวัน บางครั้งน้องคนโตก็ช่วยอธิบายให้ฟัง น้องฉลาดมากๆและอธิบายเก่งมาก 4ขวบ แถมยังสอนเราในการฝึกออกเสียงด้วย หนังภาษาอังกฤษที่ไม่เคยดู ก็ไปหามาดู ดูตั้งแต่แบบ ฟังไม่ออกเลย เปิดซับไทยก่อน หลังๆก็เปิดซับอังกฤษ เพราะจะได้แปลคำที่เราไม่เข้าใจ เรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าภาษาอังกฤษเริ่มดีขึ้นคือเรื่อง 13 reasons why บนเน็ตฟลิก บางคนอาจจะไม่ชอบแนวนี้นะ แต่สำหรับเราเรื่องมันน่าติดตาม และเป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่น คำพูดค่อนข้างเป็นคำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เคยลองดูเรื่อง Friends แต่ไม่เข้าใจมุกที่เค้าเล่นก็เลยเลิกดูไป แบบมีเสียงหัวเราะในหนัง แต่เรายังงงอยู่เลยว่าเค้าพูดถึงอะไร 

พาเด็กไปเล่นสนามเด็กเล่น ภาพวันเกิดเหตุ 5555

ภายใน 2 อาทิตย์ที่ปรับตัวเข้าหากัน เจอเหตุการณ์ที่ พาเด็ก 3 คน ออกไปเล่น แล้วเด็กวิ่งหนีเราไปทางถนน เราวิ่งตามจนล้มและได้แผลกลับมา ยังเป็นแผลเป็นยันปัจจุบัน วันนั้นร้องไห้เลย ทั้งโกรธทั้งเจ็บ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นอาการของเด็ก ที่กำลังปรับตัว เราก็เช่นกัน พอหลังจากนั้นเรื่องก็ชิลๆไปเลย เกี่ยวกับเด็กๆ เพราะน้องเลี้ยงง่ายขึ้น และ วันนั้นที่ร้องไห้ เด็กๆก็มาโอ๋เอ๋ด้วย (คิดถึงจัง)

ร่องรอยของคนสู้ชีวิต มีที่มือด้วยนะ 55555 


หน้าที่ของกิ่งในบ้านก็คือ

1. เตรียมอาหารเช้าให้เด็กๆ ก็จะมีพวก แพนเค้ก, วาฟเฟิล, โยเกิร์ต, ไข่ดาว, ซีเรียล กินซ้ำๆแบบนี้ทุกวันเลย

2. แต่งตัวให้เด็กไป จัดที่นอน ซึ่งเด็กโตขึ้นมาหน่อย เราก็สอนเด็กพับผ้าห่ม เล่นกันในห้องด้วยค่ะ

3. ถ้าวันไหนน้องต้องไปโรงเรียนก็จะขับไปส่งน้องแล้วกลับมา ซึ่งน้อง 4 ขวบไปโรงเรียน 5 วัน/สป. น้อง 2.5ขวบ ไปโรงเรียน 3วัน/สป. ก็หิ้วเด็กทั้ง 3 คนไปหมดค่ะ เพราะพ่อกับแม่ทำงานข้างนอกทั้งคู่

4. เล่นกับน้องหากิจกรรมทำ ก็จะพาออกไปเดินเล่น ทำขนม ระบายสี ตัดกระดาษ เล่นชอล์ก สีเทียน

5. ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของเด็กๆ บ้านนี้ต้องพับผ้าให้โฮสด้วยค่ะ

6. เตรียมอาหารเที่ยงก่อนที่เด็กๆจะกลับจากโรงเรียน 

7. พาเด็กๆ ทานอาหารเที่ยงแล้วก็พาเข้านอนกลางวันทั้ง 3 คนค่ะ

8. พอเด็กตื่นก็ให้กินขนมแล้วก็เล่นต่อ

9. พ่อและแม่กลับมาก็รับช่วงต่อไปค่ะ

 

แต่ตารางงานบ้านนี้แล้วแต่โฮสจะเขียนให้ในแต่ละอาทิตย์ บางวันก็เลิกเร็วเลย ถ้าหน้าร้อนกิ่งก็จะชอบหน่อย เพราะหนีออกจากบ้านไปปั่นจักรยานได้ กว่าจะมืดก็ 2 ทุ่ม ยังทำอะไรได้อีกเยอะเลยค่ะ


ปีแรกกิ่งค่อนข้างต้องรัดเข็มขัดหนักมาก ไม่ได้ช้อปปิ้งแต่เงินก็ไม่ค่อยมี อิหยังหนอ??? แต่เราต้องซื้อของกินเข้าบ้านเองด้วย มันก็หนักอยู่เหมือนกัน แต่โฮสก็ซื้อให้นะคะ แต่จะมีบางอย่างที่เค้าหาให้ไม่ได้ แล้วเราก็ต้องซื้อเอง 


ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ช่วงนี้กิ่งยุ่งๆนิดหน่อย แต่จะทยอยเอารูปและเรื่องราวต่างๆมาอัพลงบล็อกเรื่อยๆ  ไว้รอบหน้าจะมาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวระหว่างที่อยู่รัฐแคลิฟอเนียร์ให้ฟังนะคะ 


เจอกันใหม่ค่ะ

See you soon 


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม